วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนครั้งที่ 17

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561เวลา 13.00น.-17.30น.

ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30น.


เนื้อหา

- สอนเนื้อหาหลักสูตรปฐมวัย 2560

คลิ๊กดูหลักสูตร าระสำคัญของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560  ของ รองศาสตราจารย์ 

ดร.พัชรี ผลโยธิน




ช่วงวัยทารก/วัยเตาะแตะ  ช่วงอายุ 0-3ปี
ช่วงวัยก่อนเข้าโรงเรียน  ช่วงอายุ 3-5 ปี
ช่วงวัยอนุบาล  ช่วงอายุ  5-6 ปี
ความหมายของหลักสูตร
คือ  การวางแผนสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นในการเรียน อาจอยู่ในรูปที่มองเห็น คือ เอกสารหลักสูตรและสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ปฏิสัมพันธ์(การยิ้ม  การไหว้  สายตา  การพูดคุย)

ความสำคัญของหลักสูตร
  • เป็นเอกสารทางราชการ
  • เป็นเกณฑ์มาจราฐานทางการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างเอกภาพของชาติ
  • เป็นแผนดำเนินงานของผู้บริหารสถานศึกษา
  • เป็นเครื่องชี้นำทางในการปฏบัติงานของครูปฐมวัย
  • เป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนของครูเพื่อพัฒนาเด็ก
ลักษณะของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเอกภาพ
  • มีความยืดหยุ่น(ปรับเปลี่ยนได้)
  • มีความเป็นสากลบนพื้รฐานความเป็นไทย
  • กำหนดช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด-6ปีบริบูรณ์
  • ใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย(กลุ่มเสี่ยง เด็กพิเศษ เด็กตามชายแดน)
จุดเน้นของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • พัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม(พัฒนาทั้ง 4 ด้าน ให้มีความสมดุลกัน
  • ยึดเด็กเป็นสำคัญ(ให้เด็กมีส่วนร่วม)
  • เรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำ
  • บูรณาการผ่านการเล่นและประสบการณ์สำคัญ
พัฒนาการ = ความสามารถของเด็กแต่ละช่วงวัย
ประสบการณ์ = ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้

การพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม
  • พัฒนาพร้อมกันทุกด้าน
  • พัฒนาตามแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาเด็ก
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
  • จัดประสบการณ์บูรณาการผ่านการเล่น
  • จัดกิจกรรมที่หลากหลาย
  • ประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล
  • ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและครอบครัวเด็ก(แลกเปลี่ยนข้อมูลเด็ก/มีผู้สนับสนุน)
องค์ประกอบหลักสูตร
  • ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย(ความเชื่อ)
  • วิสัยทัศน์(เป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึงตามความเชื่อ)
  • หลักการ(แนวทาง)
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี                                                            

  การประยุกต์ใช้

   สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และการประกอบวิชาชีพจริงได้ในอนาคต

ประเมิน

ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน

เพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์

อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำแผนการสอน

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561

เวลา 14.00น.-17.00น.




เนื้อหา

   การจัดประสบการณ์ควรออกแบบให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพัฒนาการของสมองและ               วิธีการเรียนรู้
    - การจัดประสบการณ์เรียนรู้ควรออกแบบให้เด็กได้ลงมือกระทำหรือเรียกว่าการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning


Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก  ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ         (สถาพร  พฤฑฒิกุล, 2558)
ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning  เป็นดังนี้  (ไชยยศ เรืองสุวรรณ2553)
1.  เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
2.  เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
3.  ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4.  ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
5.  ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
6.  เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
7.  เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง
8.  เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด
9.  ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
10. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน

บทบาทของอาจารย์ผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning ดังนี้  (ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ, 2550)จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเน้นการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน
1.       สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี
กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน
2.       จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้ง
กระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
3.       จัดสภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน
4.       จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย
5.       วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม
6.       ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดเของที่ผู้เรียน

ตัวอย่างเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ  Active Learning
การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning  สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รวมทั้งสามารถใช้ได้กับนักเรียนทุกระดับ ทั้งการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก และการเรียนรู้แบบกลุ่มใหญ่  McKinney (2008) ได้เสนอตัวอย่างรูปแบบหรือเทคนิค การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning ได้ดี ได้แก่
1.      การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้
ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับประเด็นที่กำหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair)และนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share)
2.      การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้
ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน
3.      การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูจะคอยช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา
4.      การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนนำเกมเข้าบูรณาการใน
การเรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน การสอน การมอบหมายงาน และหรือขั้นการประเมินผล
5.      การเรียนรู้แบบวิเคราะห์วีดีโอ (Analysis or reactions to videos) คือการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ดูวีดีโอ 5-20 นาที แล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู อาจโดยวิธีการพูดโต้ตอบกัน การเขียน หรือ การร่วมกันสรุปเป็นรายกลุ่ม
6.      การเรียนรู้แบบโต้วาที (Student debates) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้
นำเสนอข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ เพื่อยืนยันแนวคิดของตนเองหรือกลุ่ม
7.      การเรียนรู้แบบผู้เรียนสร้างแบบทดสอบ (Student generated exam questions) คือการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสร้างแบบทดสอบจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแล้ว
8.      การเรียนรู้แบบกระบวนการวิจัย (Mini-research proposals or project) คือการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ที่อิงกระบวนการวิจัย โดยให้ผู้เรียนกำหนดหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้ วางแผนการเรียน เรียนรู้ตามแผน สรุปความรู้หรือสร้างผลงาน และสะท้อนความคิดในสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรืออาจเรียกว่าการสอนแบบโครงงาน(project-based learning) หรือ การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน(problem-based learning)
9.      การเรียนรู้แบบกรณีศึกษา (Analyze case studies) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียน
ได้อ่านกรณีตัวอย่างที่ต้องการศึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแนวทางแก้ปัญหาภายในกลุ่ม แล้วนำเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด
10.  การเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping journals or logs) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่
ผู้เรียนจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเห็น หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งเสนอความคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึกที่เขียน
11.  การเรียนรู้แบบการเขียนจดหมายข่าว (Write and produce a newsletter) คือการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนร่วมกันผลิตจดหมายข่าว อันประกอบด้วย บทความ ข้อมูลสารสนเทศ ข่าวสาร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วแจกจ่ายไปยังบุคคลอื่นๆ
12.  การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด (Concept mapping) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้
ผู้เรียนออกแบบแผนผังความคิด เพื่อนำเสนอความคิดรวบยอด และความเชื่อมโยงกันของกรอบความคิด โดยการใช้เส้นเป็นตัวเชื่อมโยง อาจจัดทำเป็นรายบุคคลหรืองานกลุ่ม แล้วนำเสนอผลงานต่อผู้เรียนอื่นๆ จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้เรียนคนอื่นได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม


ที่มา: เอกสารประกอบการฝึกอบรม คุณภาพผู้เรียน.......เกิดจากกระบวนการเรียนรู้ 
       โดย ดร.สถาพร  พฤฑฒิกุล (3 ธันวาคม 2558) คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา
       วิทยาเขตสระแก้ว


 Executive Function (EF) คือ การทำงานของสมองด้านการจัดการ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต โดยอาศัยกระบวนการทางปัญญา (cognitive process) ต่างๆ เช่น การยับยั้งความคิด การแก้ปัญหา การวางเป้าหมาย การวางแผนการปฏิบัติ (goal-directed behavior) การจดจำ ความยืดหยุ่นทางปัญญา (cognitive flexibility) เป็นความสามารถในการควบคุมความคิดตนเอง เช่น มีรูปแบบความคิดที่หลากหลาย การคิดนอกกรอบ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและความสนใจตามสถานการณ์ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อน
          
        กระบวนการทางปัญญาเหล่านี้สามารถพัฒนาได้ในวัยเด็กตอนต้น ผ่านกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะด้านสังคม อารมณ์ และร่างกายเพื่อช่วยส่งเสริม EF ให้ดีขึ้น เช่นการเล่นดนตรี เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของ EF เพราะต้องอาศัยทักษะต่างๆ เช่น การมีสมาธิอย่างต่อเนื่อง ความยืดหยุ่นทางปัญญา การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน (task switching)
            
  การประยุกต์ใช้

   สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และการประกอบวิชาชีพจริงได้ในอนาคต

ประเมิน


ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน

เพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์

อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำแผนการสอน




บันทึกการเรียนครั้งที่ 15

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561

เวลา 14.00น.-17.00น.





งดการเรียนการสอนเพื่อทบทวนความรู้


เรียนชดเชยวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 



บันทึกการเรียนครั้งที่ 14

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561

เวลา 14.00น.-17.00น.



วันหยุดสงกรานต์

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนครั้งที่ 13

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2561วลา 14.00น.-17.00น.

ชดเชยของวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561 เวลา 11.30น.- 14.30น.

เนื้อหา

สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (วันศุกร์)

-หน่วยแหล่งน้ำ
-หน่วยฝน





การประยุกต์ใช้

   สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และการประกอบวิชาชีพจริงได้ในอนาคต

ประเมิน

ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน
เพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์

อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่าง

ให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำแผนการสอน






บันทึกการเรียนครั้งที่ 12

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561

เวลา 11.30-14.30 น.


เนื้อหา

การสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์(วันพฤหัสบดี)








วัตถุประสงค์

เพื่อให้เด็กสามารถ 
1.บอกวิธีการปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะได้
2.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
3.สนทนาและแสดงความคิดเห็นได้

ประสบการณ์สำคัญ
 ด้านอารมณ์-จิตใจ

1 การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องราวต่างๆ
ด้านสังคม
2.การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านสติปัญญา
การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมองและการฟัง

3.การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมองและการฟัง

สาระที่ควรเรียนรู้
เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ข้อควรปฏิบัติของยานพาหนะเช่นนั่ง รถยนต์ต้องคาดเบลท์  ไม่ยื่นมือและศรีษะออกมานอกรถและไม่หยอกล้อกันขณะขับรถ นั่งเรือต้องใส่ชูชีพนั่งที่ให้เรียนร้อยไม่วิ่งและหยอกล้อกัน  นั่ง จักรยานยนต์ต้องใส่หมวกกันน็อกและไม่ซ้อน3คน 

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
 ครูและเด็กร่วมกันอ่านคำคล้องจอง
          คำคล้องจอง ปลอดภัยไว้ก่อน  ผู้แต่ง ธาร่า
          สวมหมวกนิรภัย ใส่ใจทุกครั้ง
          ขึ้นรถระวัง รีบนั่งให้ดี
          เข็มขัดคาดไว้ เรือไวเร็วจี๋
          ดูอย่างถ้วนถี่ มีความปลอดภัย
 และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับคำคล้องจอง เช่น เด็กๆรู้ไหมคะว่าเวลาเราขึ้นรถเราควรปฏิบัติอย่างไร

ขั้นสอน
1.ครูมีภาพอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากไม่ปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะมาให้เด็กดู เช่นภาพรถยนต์ชนแล้วคนกระเด็นออกจากรถเพราะไม่ได้คาดเข็ม  ภาพคนจะจมน้ำเพราะนั่งเรือไม่ใส่ชูชีพ  ภาพนั่งจักรยานยนต์ล้มคนบาดเจ็บเพราะไม่ใส่หมวกกันน็อก
 2.ครูให้เด็กสังเกตภาพอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ต่างๆ ในการใช้ยานพาหนะโดยใช้คำถาม เช่น“เด็กๆลองสังเกตดูสิว่าที่รถยนต์ชนกันและคนกระเด็นออกจากรถเป็นเพราะอะไร”
3.ครูบันทึกร่องรอยการเรียนรู้ลงผังกราฟฟิก



ขั้นสรุป
  ครูและเด็กร่วมกันทบทวนข้อควรปฏิบัติของการใช้ยานพาหนะ
 สื่อ / แหล่งเรียนรู้
1.ชาตคำคล้องจอง
2. ผังกราฟฟิก
3.รูปภาพอุบัติเหตุ

การวัดและประเมินผล
สังเกตและบันทึกพฤติกรรม ดังนี้
1.บอกวิธีการปฏิบัติในการใช้ยานพาหนะได้
2.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
3.สนทนาและแสดงความคิดเห็นได้

การบูรณาการ
ภาษา
สังคม

การประยุกต์ใช้
สามารถนำไปใช้ในการเขียนแผนการสอน และการประกอบวิชาชีพจริงได้ในอนาคต

ประเมิน
ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง และตั้งใจสอน
เพื่อน : เพื่อนมาเรียนตรงเวลา และมีแผนมาส่งอาจารย์
อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำแผนการสอน







บันทึกการเรียนครั้งที่ 17 วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.00น.-17.30น. ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30น....