วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561


บันทึกการเรียนครั้งที่3
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2561
เวลา 11.30-14.30 น.

เนื้อหา
-สรุปสิ่งที่เรียนมาอาทิตย์ที่แล้ว
-ทำแผนการสอน


       การศึกษาปฐมวัยเป็นการศึกษาเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6ปีและเรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการเด็กความต้องการของเด็ก สอนให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ฝึกพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน เช่น พัฒนาการทางร่างกาย พัฒนาการทางด้านสังคม พัฒนาการทางด้านอารมณ์และพัฒนาการทางด้านจิตใจ เด็กจะเจริญเติบโตตั้งแต่อยู่ในครรภ์กระทั่งหลังคลอด ร่างกายและสมองจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 0-6 ปี แรกของชีวิต ขบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือ การเจริญเติบโต และพัฒนาการ

พัฒนาการ หมายถึง กระบวนการเปลี่ยนแปลงด้านวุฒิภาวะ (maturity) ของอวัยวะระบบต่างๆและตัวบุคคล ทำให้เพิ่ม ความสามารถของบุคคลให้ทำหน้าที่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำสิ่งที่ยากและซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ ตลอดจนการเพิ่ม ทักษะใหม่และความสามารถในการปรับตัวในภาวะใหม่ของบุคคลนั้น

ทฤษฏีการเรียนรู้

ทฤษฎีการเรียนรู้ของวีก๊อทสกี้
        วีก็อตสกี้เป็นนักจิตวิทยาชาวรัชเซีย ทฤษฎีเชาว์ปัญญาของวีก็อทสกี้เน้นความ สำคัญของวัฒนธรรม สังคม และการเรียนรู้ที่มีต่อพัฒนาการเชาว์ปัญญา 
        วีก็อตสกี้ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและสังคมมาก เขาอธิบายว่ามนุษย์ได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมตั้งแต่แรกเกิดซึ่งนอกจากสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีสิ่งแวดล้อมทางสังคม  ซึ่งก็คือวัฒนธรรมที่แต่ละสังคมสร้างขึ้น ดังนั้น สถาบันสังคมต่างๆ เริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัว  จะมีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางเชาวน์ปัญญาของแต่ละบุคคล นอกจากนั้น ภาษายังเป็นเครื่องมือสำคัญของการคิดและพัฒนาปัญญาขั้นสูง พัฒนาการทางภาษาและทางความคิดของเด็กเริ่มด้วยการพัฒนาที่แยกจากกัน แต่เมื่ออายุมากขึ้นพัฒนาทั้งสองด้านจะไปร่วมกัน

 วีก็อตสกี้แบ่งระดับเชาว์ปัญญาออกเป็น 2 ขั้น คือ
  1.  เชาว์ปัญญาขั้นเบื้องต้น คือเชาว์ปัญญามูลฐานตามธรรมชาติโดยไม่ต้องเรียนรู้
  2.  เชาว์ปัญญาขั้นสูง คือเชาว์ปัญญาที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ที่ให้การอบรม เลี้ยงดู ถ่ายทอดวัฒนธรรมให้โดยใช้ภาษา
 วีก็อตสกี้ ได้แบ่งพัฒนาการทางภาษาเป็น 3 ขั้น  คือ
  
2.1 ภาษาที่ใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เรียกว่า ภาษาสังคม (social speech) เป็นภาษาที่เด็กใช้ ในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น  ในช่วงอายุ  0 - 3 ปี เพื่อสื่อสารความคิดความรู้สึกต่างๆที่ตนนั้นกำลังนึกคิด และต้องการที่จะแสดง ความต้องการอารมณ์ ความรู้สึกของตนเองกับผู้อื่น
2.2 ภาษาที่พูดกับตนเอง 3 – 7 ขวบ (egocentric  speech)  เป็นภาษาที่เด็กใช้พูดกับตนเองใน
ช่วงอายุ  3 -7 ปี  โดยไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น  เพื่อช่วยในการคิด  ตัดสินใจแสดงพฤติกรรม
 2.3 ภาษาที่พูดในใจเฉพาะตน 7 ขวบขึ้นไป (inner  speech) วีก๊อทสกี้อธิบายว่า มนุษย์ต้องใช้ภาษาในการคิด  เด็กจะต้องพัฒนาภาษาในใจ  ซึ่งเป็นการช่วยให้พัฒนาการทางสติปัญญาพัฒนาสูงขึ้นตามระดับอายุ  การพัฒนาภาษาภายในตนเองเกิดขึ้นในช่วงอายุประมาณ 7 ปี เมื่อเด็กพบปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้น  เขาเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาไปตามขั้นตอนโดยใช้ภาษาภายในตนเอง  ในขณะที่เด็กเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเองนั้น  เขาอาจพบบางปัญหาที่เขาคิดเองไม่ออก แต่หากได้รับคำแนะนำช่วยเหลือบางส่วนจากผู้ใหญ่  หรือได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเพื่อนเขาจะสามารถแก้ปัญหานั้นได้สำเร็จวีก๊อตสกี้เรียกระดับความสามารถนี้ว่าจุดที่เด็กสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จหากได้รับความช่วยเหลือสนับสนุน

ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ (Skinner) สกินเนอร์ 

สกินเนอร์ได้เสนอแนวความคิดโดยจำแนกทฤษฎีทางพฤติกรรมออกเป็น  2  ประเภท  คือ
1. พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้แบบ  Type S  (Response Behavior)  ซึ่งมีสิ่งเร้า 
(Stimulus)  เป็นตัวกำหนดหรือดึงออกมา เช่น น้ำลายไหลเนื่องจากใส่อาหารเข้าไปในปาก สะดุ้งเพราะถูกเคาะที่สะบ้าข้างเข่า หรือการหรี่ตาเมื่อถูกแสงไฟ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการตอบสนองแบบอัตโนมัติ
2. พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้แบบ Type R (Operant Behavior) 
ตัวเสริมแรงแบ่งออกเป็น ลักษณะ  คือ
1. ตัวเสริมแรงทางบวก  (Positive  Reinforcement)  หมายถึง สิ่งเร้าใด  ๆ  ซึ่งเมื่อ
นำมาใช้แล้วทำให้อัตราการตอบสนองเพิ่มมากขึ้น เช่น คำชมเชย รางวัล อาหาร
2. ตัวเสริมแรงทางลบ  (Negative  Reinforcement)  หมายถึง  สิ่งเร้าใด ๆ  ซึ่งเมื่อ
นำมาใช้แล้วทำให้การตอบสนองเพิ่มขึ้นในทางลบ เป็นตัวเสริมแรงทางลบ เช่น เสียงดัง อากาศร้อน คำตำหนิ กลิ่น การทำโทษ เป็นการนำตัวเสริมแรงลบเข้ามา เพราะการทำโทษบางอย่างหากนำไปใช้จะมีผลให้อัตราการตอบสนองเปลี่ยนไปในลักษณะที่เข้มขึ้น

การเขียนแผนของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มที่1หน่วยยานพาหนะ


กลุ่มที่2หน่วยผีเสื้อแสนสวย


กลุ่มที่3หน่วยฝนจ๋า

กลุ่มที่4หน่าวยแหล่งน้ำ



กลุ่มที่5หน่วยของเล่น



กลุ่มที่6หน่วยตัวเรา

การประยุกต์ใช้
สามารถนำไปวางแผนสำหรับการออกแบบแผนการสอนให้เหมาะสมกับหลักสูตรของแต่ละโรงเรียนได้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และการประกอบวิชาชีพจริงได้ในอนาคต
ประเมิน
ตนเอง : วันนี้ตั้งใจฟัง จดตาม และมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม และทำงานร่วมกับเพื่อน
เพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียน และทำงานกันอน่างตั้งใจ
อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนและแนะนำการทำแผนการสอน

คำศัพท์

vehicle    - ยานพาหนะ
Butterfly  - ผีเสื้อ
US         - ตัวเรา
Rain       - ฝน
Water source - แหล่งน้ำ
toy          - ของเล่น
Used         - ของใช้

บันทึกการเรียนครั้งที่2
วันจันทร์ที่ 22 มกราคม 2561
เวลา 11.30-14.30 น.

เนื้อหา

-นำเสนองานกลุ่ม1 -กลุ่ม3

-กลุ่มที่1นำเสนอเรื่องคุณลักษณะตามวัยหลักสูตรปฐมวัยสำหรับเด็ก
  
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ (ระดับปฐมวัย)
          มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์  เป็นจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยที่มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย  ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคลทั้งทางด้านร่างกาย  อารมณ์  จิตใจ  สังคม  และสติปัญญา  เมื่อเด็กจบการศึกษาระดับปฐมวัย  เด็กจะบรรลุตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในจุดหมาย 12 ข้อ  และการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัยต้องคำนึงถึงคุณลักษณะตามวัยของเด็กด้วย  โรงเรียนบ้านหนองผือ  จึงนำสู่การวิเคราะห์คุณลักษณะตามวัยเพื่อกำหนดตัวบ่งชี้  และสภาพที่พึงประสงค์  ดังแสดงในตารางต่อไปนี้
1.  ด้านร่างกาย
     มาตรฐานที่ 1  ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย  และมีสุขนิสัยที่ดี

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
มีน้ำหนัก ส่วนสูง  เส้นรอบศีรษะตามเกณฑ์อายุ
1.น้ำหนัก  ส่วนสูงได้สัดส่วนตามเกณฑ์
2.เส้นรอบศีรษะตามเกณฑ์อายุ
1.น้ำหนัก ส่วนสูงได้สัดส่วนตามเกณฑ์
2.เส้นรอบศีรษะตามเกณฑ์อายุ
ตัวบ่งชี้ที่ 2
รู้จักรักษาสุขภาพอนามัยและความปลอดภัย
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้บางชนิด
2.ล้างมือหลังจากใช้ห้องน้ำ  ห้องส้วม
3.ขับถ่ายเป็นเวลา
4.พักผ่อนเป็นเวลา
5.ระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้หลายชนิด
2.ล้างมือหลังจากใช้ห้องน้ำ  ห้องส้วม
3.ขับถ่ายเป็นเวลา
4.พักผ่อนเป็นเวลา
5.ระมัดระวังความปลอดภัยรู้จักดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
    มาตรฐานที่  2  กล้ามเนื้อใหญ่กล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่วและทรงตัวได้ดี
1.วิ่งและหยุดได้โดยเสียการทรงตัวเล็กน้อย
2.กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
3.เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
4.เดินต่อเท้าไปข้างหน้าตามแนวได้
1.วิ่งอย่างรวดเร็วและหยุดได้โดยไม่เสียการทรงตัว
2.กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
3.เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
4.เดินต่อเท้าถอยหลังตามแนวได้
ตัวบ่งชี้ที่ 2
ใช้มือได้อย่างคล่องแคล่ว
1.โยนลูกบอลไปข้างหน้าได้
2.รับลูกบอลได้โดยไม่ใช้ลำตัวช่วย
3.เขียนรูปสี่เหลี่ยมมีมุมชัดเจนได้
4.ตัดกระดาษตามแนวเส้นได้
5.ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเล็กได้
1.โยนลูกบอลไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมายได้
2.รับลูกบอลที่กระดอนจากพื้นได้
3.เขียนรูปสามเหลี่ยมมีมุมชัดเจนได้
4.ตัดกระดาษตามแนวเส้นตรงได้โดยไม่มีรอยหยัก
5.ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเล็กได้
2.  ด้านอารมณ์และจิตใจ 
     มาตรฐานที่  3  มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข
ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
การแสดงออกด้านอารมณ์อย่างเหมาะสมตามวัยและสถานการณ์
1.ร่าเริง แจ่มใส อารมณ์ดี
2.แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
1.ร่าเริง แจ่มใส อารมณ์ดี
2.แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์
ตัวบ่งชี้ที่ 2
มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
1.บอก/แสดงสีหน้าท่าทางพอใจในผลงาน/ความสามารถและยอมรับในสิ่งที่ตนมีอยู่  เป็นอยู่
2.รับรู้ความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นได้บ้าง
3.บอก/แสดงสีหน้าท่าทางพอใจในผลงาน/ความสามารถและยอมรับในสิ่งที่ผู้อื่นมีอยู่/เป็นอยู่
1.บอก/แสดงสีหน้าท่าทางพอใจในผลงาน/ความสามารถและยอมรับในสิ่งที่ตนมีอยู่  เป็นอยู่
2.รับรู้ความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นได้บ้าง
3.บอก/แสดงสีหน้าท่าทางพอใจในผลงาน/ความสามารถและยอมรับในสิ่งที่ผู้อื่นมีอยู่/เป็นอยู่
 
     มาตรฐานที่  4  มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
มีวินัยในตนเองและมีความรับผิดชอบ
1.เก็บของเล่นเข้าที่ได้
2.รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ
3.รู้จักรอคอยและเข้าแถวตามลำดับก่อนหลัง
4.เข้าแถวได้อย่างมีระเบียบ
5.ปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน โรงเรียนอย่างเหมาะสม
1.เก็บของเล่นเข้าที่ได้เรียบร้อย
2.รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ
3.รู้จักรอคอยและเข้าแถว
ตามลำดับก่อนหลัง
4.เข้าแถวได้อย่างมีระเบียบ
5.ปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียน  โรงเรียนอย่างเหมาะสม
ตัวบ่งชี้ที่ 2
ซื่อสัตย์สุจริตและยอมรับความผิดพลาดของตนเองและผู้อื่น
1.รู้จักขอโทษและให้อภัย
2.ไม่แย่งหรือหยิบของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
1.รู้จักขอโทษและให้อภัย
2.ไม่แย่งหรือหยิบของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
ตัวบ่งชี้ที่ 3
มีความเมตตากรุณาและช่วงเหลือแบ่งปัน
1.แสดงความรักเพื่อนและสัตว์เลี้ยง
2.ไม่ทำร้ายผู้อื่นและไม่ทำให้ผู้อื่นเสียใจ
3.รู้จักแบ่งปันและเริ่มช่วยเหลือผู้อื่น
1.แสดงความรักเพื่อนเด็กที่เล็กกว่าและสัตว์ต่างๆ
2.ไม่ทำร้ายผู้อื่นและไม่ทำให้ผู้อื่นเสียใจ
3.รู้จักแบ่งปันและเริ่มช่วยเหลือผู้อื่น
ตัวบ่งชี้ที่ 4
รู้จักประหยัดและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1.รู้จักรักษาสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน
2.รู้จักอดทน รอคอย และรู้จักการอดออม
1.รู้จักรักษาสิ่งของ/เครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกัน
2.รู้จักใช้น้ำ/ไฟฟ้าอย่างประหยัด
3.รู้จักการอดทน รอคอย และรู้จักการอดออมเพื่อประโยชน์ในวันข้างหน้า
 
     มาตรฐานที่  5  ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว และรักการออกกำลังกาย

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
สนใจและมีความสุขกับศิลปะ  ดนตรี  และการเคลื่อนไหว
1.สนใจและมีความสุขขณะทำงานศิลปะ
2.สนใจและมีความสุขกับเสียงเพลง  ดนตรี  และการเคลื่อนไหว
1.สนใจและมีความสุขขณะทำงานศิลปะ
2.สนใจ ชื่นชมและมีความสุขกับเสียงเพลง  ดนตรี  และการเคลื่อนไหว
ตัวบ่งชี้ที่ 2
แสดงออกทางด้านศิลปะ  ดนตรี  และการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ
1.สร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปะ
2.แสดงท่าทางเคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะและดนตรี
1.สร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปะ
2.แสดงท่าทางเคลื่อนไหวประกอบเพลง  จังหวะและดนตรี
ตัวบ่งชี้ที่ 3
รักการออกกำลังกาย
สนใจและมีความสุขในการชม/การเล่น/การออกกำลังกายสนใจและมีความสุขในการชม/การเล่น/การออกกำลังกาย
 
3.  ด้านสังคม
     มาตรฐานที่  6  ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัย

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
1.แต่งตัวได้ด้วยตนเอง
2.รับประทานอาหารได้ด้วยตนเองโดยไม่หกเลอะเทอะ
3.รู้จักทำความสะอาดร่างกายหลังจากเข้าห้องน้ำ  ห้องส้วม
1.เลือกเครื่องแต่งกายและแต่งตัวด้วยตนเอง
2.รับประทานอาหารด้วยตนเองอย่างถูกวิธี
3.ใช้เครื่องมือเครื่องใช้ในการรับประทานอาหารได้
4.ทำความสะอาดร่างกายได้
 
 
     มาตรฐานที่  7  รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
ดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
1.สนใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
2.ทิ้งขยะถูกที่
3.ไม่ทำลายสาธารณสมบัติ
 
1.สนใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
2.ทิ้งขยะถูกที่
3.ไม่ทำลายสาธารณสมบัติ
4..ช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว
ตัวบ่งชี้ที่ 2
มีสัมมาคารวะและมารยาทตามวัฒนธรรมไทย
1.แสดงความเคารพตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่นได้
2.รู้จักกล่าวคำขอบคุณและขอโทษ
 
1.แสดงความเคารพตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่นได้
2.รู้จักทักทาย  กล่าวคำขอบคุณและขอโทษ
3.ปฏิบัติตนได้เหมาะสมตามกาลเทศะ
 
     มาตรฐานที่  8  อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
เล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
1.รู้จักรอคอย
2.เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
1.รู้จักรอคอยตามลำดับก่อนหลังได้
2.เล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มได้  โดยมีจุดหมายร่วมกัน
ตัวบ่งชี้ที่ 2
ปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
1.ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกัน
2.เริ่มรู้จักการเป็นผู้นำผู้ตามได้บางครั้ง
1.ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกัน
2.เป็นผู้นำ  ผู้ตามที่ดี
 
4.  ด้านสติปัญญา
     มาตรฐานที่  9  ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
สนทนาโต้ตอบ  เล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ
1.สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
2.ฟังและปฏิบัติตามคำสั่งที่ต่อเนื่องได้
1.สนทนาโต้ตอบหรือเล่าเรื่องเป็นราวได้
2.ฟังและปฏิบัติตามคำสั่งและนำคำสั่งมาถ่ายทอดได้
ตัวบ่งชี้ที่ 2
อ่านเขียนภาพและสัญลักษณ์ได้
1.เปิดและทำท่าอ่านหนังสือได้
2.ขีดเขียนเป็นเส้นคล้ายตัวหนังสือ (โดยไม่เน้นความถูกต้องและไม่ได้เกิดจากการฝึก)
3.เขียนภาพ / สัญลักษณ์ตามความต้องการของตนเองได้
1.เปิดและทำท่าอ่านหนังสือพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวได้
2.เขียนชื่อ คำ ข้อความที่ลอกแบบหรือจำมาได้
3.เขียนภาพ/สัญลักษณ์ตามความต้องการของตนเองได้
 
  


    มาตรฐานที่  11  มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
ทำงานศิลปะตามความคิดของตนเอง
1.สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียด
2.วาดภาพตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้
1.สร้างผลงานตามความคิดโดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมและแปลกใหม่
2.วาดภาพตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้
ตัวบ่งชี้ที่ 2
แสดงท่าทางตามความคิดของตนเอง
แสดงท่าทางตามความคิดและจินตนาการได้อย่างอิสระแสดงท่าทางเล่นบทบาทสมมุติตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้
ตัวบ่งชี้ที่ 3
เล่าเรื่องราวหรือนิทานตามความคิดของตนเอง
เล่านิทานหรือเรื่องราวตามจินตนาการได้เล่านิทาน  เล่าสิ่งที่ตนคิด
หรือเรื่องราวตามจินตนาการได้

     มาตรฐานที่  12  มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีทักษะในการแสวงหาความรู้
ตัวบ่งชี้สภาพที่พึงประสงค์
เด็กอายุ 4 ปีเด็กอายุ 5  ปี
ตัวบ่งชี้ที่ 1
สนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ
1.ร่วมกิจกรรมด้วยความ
สนใจได้นานอย่างมีความสุข
2.มีความสนใจหยิบ/เปิดหนังสือดูและอ่านภาพ
3.มีความสนใจขีดเขียนลากเส้นต่างๆ
1.ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจตั้งแต่ตนจนจบอย่างมีความสุข
2. รักหนังสือและมีความสนใจหยิบ/เปิดหนังสือดูและอ่านภาพ
3.มีความสนใจขีดเขียนลากเส้นต่างๆอย่างมีความหมาย
ตัวบ่งชี้ที่ 2
แสวงหาคำตอบด้วยวิธีการที่หลากหลาย
1.ถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ
2.แสดงหาคำตอบ/ข้อสงสัยด้วยวิธีการซักถาม  สำรวจ  ค้นคว้า  ทดลอง
3.เชื่อมโยงความรู้และทักษะต่างๆ ใช้ในชีวิตประจำวันได้
1.ถามคำถาม/แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ
2.แสดงหาคำตอบ/ข้อสงสัยด้วยวิธีการต่างๆ ที่หลากหลาย
3.เชื่อมโยงความรู้และทักษะต่างๆ ในชีวิต
ประจำวัน

-นำเสนอกลุ่มที่2เรื่องความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย

ความต้องการ ความสนใจและการเล่นของเด็กปฐมวัย
   เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนา ความเป็นมนุษย์การสร้างรากฐานที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับเด็กในวันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น  โดยเฉพาะช่วงอายุแรกเกิด    ถึง6 ปี เป็นระยะ ที่มีความสำคญั ช่วงหนึ่งในการวางรากฐานคุณภาพชีวิตของเด็ก ด้วยเหตุที่เด็กปฐมวัยมีธรรมชาติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากบุคคล วัยอื่น ๆ

ความต้องการ
ความต้องการเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ความต้องการเกิดขึ้น เมื่อร่างกายขาดความสมดุล ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ร่างกายเกิด ความเครียด ไม่เป็นสุข ดังน้ันร่างกายจึงต้องมีการกระทำเกิดขึ้นเพื่อให้ ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลตามปกติ 

ความต้องการของเด็กปฐมวัย
 1. ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่
 2. ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย
 3. ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการใหเ้กิดผลสัมฤทธิ์ท้้งสิ้น 
4. ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย 
5. ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น

ความสนใจ 
 ความสนใจ หมายถึงความรู้สึกหรือเจตคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ความรู้สึกนั้นทำให้บุคคลเอาใจใส่และกระทำการจนบรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่บุคคลต่อสิ่งน้ัน 

ความสนใจ
1. เกิดจากความต้องการ 
2. เกิดจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น 
3. เกิดจากแรงจูงใจของสิ่งเร้า 
4. สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่มีความหมาย 
5. สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริงของเด็ก
 6. สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่เด็กถนัดและมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว 

-นำเสนอกลุ่มที่3เรื่องการสอนแบบโครงการ

การสอนแบบโครงการ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความสำคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้
วิธีจัดการเรียนการสอนมี 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เด็กจะร่วมกันคิดเรื่องที่สนใจ
ระยะที่2 ดำเนินโครงการตามที่กำหนดไว้ ที่เน้นระบวนการแก้ปัญหา จัดเป็นหัวใจของการสอนแบบโครงการ เพราะเด็กจะได้รับข้อมูลใหม่จากประสบการณ์ตรงหรือเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานเพราะเด็กได้สนทนา พูดคุยกับบุคคล และสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ ขณะเดียวกันเด็กสามารถค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลรอง (Secondary Sources) เช่น การดูวีดีทัศน์ การอ่านหนังสือ เป็นต้น
ระยะที่3สรุปโครงการ ครูและเด็กร่วมวางแผนสรุปโครงการ เป็นขั้นตอนการประเมินโครงการ ทบทวนการปฏิบัติ และวางแผนโครงการใหม่ วิธีการสรุปโครงการอาจจะให้เด็กนำผลงานที่ได้รับมอบหมายมาแสดงต่อครูแล้วอภิปรายประเด็นปัญหา หรือให้เด็กนำเสนอผลงาน ในรูปของการจัดแสดง จัดเป็นนิทรรศการ หรือสาธิตผลงานระยะที่ 

การประยุกต์ใช้
สามารถนำรูปแบบการสอนต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนที่ได้ไปปฏบัติวิชาชีพได้ หรือสามารถสอดแทรกไปในกิจกรรมประจำวันในตารางเรียนได้อีกด้วย 
ประเมิน
ตนเอง : วันนี้มาเรียนตรงต่อเวลาตั้งใจฟัง จดตาม และมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม
เพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียน มาเรียนตรงต่อเวลา
อาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน


บันทึกการเรียนครั้งที่ 1
วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561
เวลา 11.30-14.30 น.

เนื้อหา

  • ปฐมนิเทศ (orientation)
  • แจก Course syllabus
  • แนะนำการปฏิบัติตัวในโรงเรียนสังเกตการสอน
  • พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาในการสังเกตการสอน
  • แบ่งกลุ่ม 10 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน นำเสนอตามหัวข้อใน Course syllabus
  • ทำ blogger ครั้งที่ 1
ประเภทของการสอนแต่ละโรงเรียน

6 Main Activities (บูรณาการ)
1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (Motor and Rhythmic Activities)
2.กิจกรรมเสริมประสบการณ์ (Experience-Enhancement Activities)
3.กิจกรรมสร้างสรรค์ (Creative Activities)
4.กิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor Activities)
5.กิจกรรมเกมส์การศึกษา (Educational Games)
6.กิจกรรมเสรี (Unstructured Activities)

High Scope คุณครูกระตุ้นให้เด็กทำกิจกรรม มี 3 ขั้นตอน คือ PDR 
1. การวางแผน (Plan) ให้เด็กได้ตัดสินใจ
2. การปฏิบัติ (Do) ให้เด็กได้ทำตามแผนที่วางไว้
3. การทบทวน (Review)ให้เด็กได้สะท้อนผลงานที่ปฏิบัติ

Waldorf เป็นการบูรณาการวิชาการกับกิจกรรม มีครูคอยดูแล เน้นการจัดบรรยากาศเป็นธรรมชาติทั้งในและนอกห้องเรียน เพื่อพัฒนาเด็กให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และได้ใช้พลังงานทุกด้านอย่างเหมาะสม

Montessori Method จัดสภาพแวดล้อมให้เหมือนบ้าน โดยให้อิสระเสรีกับเด็ก โดยนึกถึงความสนใจ ความต้องการ และความแตกต่างของเด็ก

Whole Language Approach การสอนภาษาแบบธรรมชาติ คือ การที่เด็กได้เรียนรู้การใช้ภาษาทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน เขียนไปตามธรรมชาติ อย่างมีความหมาย เหมาะสมกับวัย โดยไม่แยกว่าต้องอ่านก่อน หรือเขียนก่อน แต่จะเน้นให้เด็กได้ลงมือทำด้วยตนเอง 


Project Approach การสอนแบบโครงการ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความสำคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้

                                                                การสงบเด็ก (เพลง/คำคล้องจอง)

นิ้วชี้คนดีอยู่ไหน

 ชูให้คุณครูดูหน่อย 

แล้ววางบนปากน้อยๆ 

แล้วตั้งใจฟังคุณครูให้ดีๆ



ปรบมือแปะๆ 

เรียกแพะเข้ามา
แพะไม่มา
เอามือปิดปากรูดซิป


กำมือซ้าย

กำมือขวา

ชูมือมา

วางตรงนี้แหล้ะ 

(ศีรษะ หัวไหล่ ปาก หู ตา เป็นต้น)


ปลาหมึกหนวดยาว  ตัวขาวน่ารัก

เวลาหยุดพักชอบยักไหล่เล่น

ยักเช้า ยักเย็น ยักเล่นๆ

แล้วก็ยัก ยัก ยัก  ปลาหมึกผูกโบว์


การประยุกต์ใช้
  สามารถนำรูปแบบการสอนต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนที่ได้ไปปฏบัติวิชาชีพได้ หรือสามารถสอดแทรกไปในกิจกรรมประจำวันในตารางเรียนได้อีกด้วย 

ประเมิน



ตนเอง : วันนี้มาเรียนตรงต่อเวลาตั้งใจฟัง จดตาม และมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม

เพื่อน : เพื่อนตั้งใจเรียน มาเรียนตรงต่อเวลา

อาจารย์ : อาจารยืมีการอธิบายในการเรียนการสอน มีการยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน

คำศัพท์
       หนึ่ง  ONE           ผึ้ง BEE             น้ำชาTEA          ม้า HORSE            กอด HUG      รัก LOVE 
       กริยาVERB         ปลา fish            คิด THINK        ชมพูPINK             งู SNAKE        ขา LEG   
        หมา DOG          กบFROG           จบFINISH        ครู TEACHER      เจอ MEET     เนื้อ BEEF 
        เสือ TIGER      ผู้นำLEADER    จำMEMORY    ไม่มีที่สิ้นสุดINFINITY                FOOT เท้า 
        ข้าว RICE         กลางคืน NIGHT   ตื่อ WEAK UP

บันทึกการเรียนครั้งที่ 17 วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.00น.-17.30น. ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30น....